บทความ

คำถามบ่อย

คำถาม: วิธีการสั่งซื้อสินค้าอย่างไร
ตอบ: ควรเดินทางมาทดลองขับแล่ะซื้อหน้าร้าน หรือถ้าท่านไม่มา ต่างจังหวัดโอนชำระเงินค่าสินค้าพร้อมค่าส่ง แต่วิธีนี้จะจัดส่งสินค้าไปให้ ทางเราไม่รับคืน ทุกกรณี


คำถาม: หน้าร้านอยู่ไหน

ตอบ: อยู่ 61 หมู่ 14 ซอยบางพรม 41 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170, จากถนนราชพฤกษ์ เข้าถนนบางพรม ก่อนถึงซอย บางพรม 41 ซ้ายมือ เป็น โกดัง อยู่หลัง PAKISTAN EXPOCENTER ตรงข้าม ปั๊ม ปตท. ร้านเปิด จันทร์-อาทิตย์ 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น กรุณานัดล่วงหน้าก่อนมาดู-ซื้อสินค้า หรือในมือถือพิมพ์คำว่า dako.in.th ก็จะพามาถึง 

คำถาม: ผลิตจากที่ไหน
ตอบ: ประกอบที่ไทย บางส่วนที่จีน สินค้าได้รับการคัดเลือกจากโรงงานผลิตที่มีคุณภาพ อย่างดี 

คำถาม: ค่าส่งเท่าไหร่
ตอบ: ขึ้นอยู่กับระยะทาง

คำถาม: ผ่อนชำระได้มั้ย ใช้บัตรเครดิตได้มั้ย
ตอบ: หน้าร้าน ที่ บางพรม 41 มีเครื่องรูดบัตร หรือ ถ้าจะผ่อน ลค. ไปสมัครบัตรผ่อนชำระที่เคาเตอร์กรุงศรีเฟริ์สช้อย แล่ะนำบัตรมาให้ทางเราทำเรื่อง เมื่ออนุมัติผ่านแล้ว ออกรถได้เลย

คำถาม เห็น ลค. อยู่หอพัก ถามว่า สามล้อราคาถูกที่ถอดแบตชาร์จได้ มีมั้ย อันนี้ทำได้น่ะ สามล้อทุกรุ่น แต่ต้องสั่งพิเศษ:

แบตพกพา

1) ราคาแบตลิเที่ยม 48V22Ah ถอดออกได้ เบาเพียง 5 กก. ราคา 8,000 บ. เวลาชาร์จ 6 ชม.เต็ม ชาร์จได้ 800 ครั้ง
2) ในขณะถ้าแบตตะกั่วแบบเดิมรวม 4 ลูก หนักถึง 20 กก. ถอดชาร์จไม่ได้ 1,400 บ.x4 = 5,600 บ. เวลาชาร์จ 8 ชม. ชาร์จได้ 600 ครั้ง

คำถามชาร์จใช้เวลา กี่ชั่วโมง วิ่งได้ไกลแค่ไหน
ตอบรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง จึงเต็ม วิ่งได้ไกล 30-40 กม. แน่ะนำให้ทำเหมือนมือถือ ก่อนนอนชาร์จ ตื่นเช้ามาแบตเต็ม ก็ถอดออก

คำถาม: ประกันยังไง ถ้าเสียอะไรเสียบ้าง ถ้าเสียมีอะไหล่มั้ย ซ่อมยังไง

ตอบ: ประกันเฉพาะ มอเตอร์ 1 ปี แบตเตอร์รี่ 6 เดือน ไม่รับประกันส่วนอื่นๆ ตัวที่จะเสียบ่อยคือ แบตเตอร์รี่ชาร์จได้ 600 ครั้ง ถ้าชาร์จทุกวันใช้งานได้เกือบ 2 ปี ถ้าไม่ได้ชาร์จทุกวัน แบตเตอร์รี่ อายุ 3-5 ปี ส่วนอื่นๆ ไม่เสียเลย มอเตอร์เป็น 10 ปี ก็ไม่เสีย มีอะไหล่ ทุกตัวครับ แต่อาจจะนาน 3-4 อาทิตย์ ถ้าหมดประกันแล้ว ภายในกรุงเทพฯ และปริมณทล ค่าแรงแล่ะค่าเดินทาง 1,500-2,000 บาท

คำถาม: ความปลอดภัย ไฟช็อคมั้ย ระเบิดมั้ย ไฟไหม้มั้ย กันน้ำได้มั้ย
ตอบ: ไฟไม่ช็อค เพราะเป็นไฟกระแสตรงแรงดันต่ำ แบตไม่ระเบิด เพราะเป็น แบบตะกั่วแห้ง ลุยน้ำได้มิดล้อ แบตเป็นแบบกรดตะกั่ว แบตชนิดนี้ ไม่เคยมีปัญหาระเบิดแน่นอน รถกันน้ำได้ยกเว้นกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์

คำถามข้อควรระวัง ใช้รถไฟฟ้า อย่างไร
ตอบ:
1. เปิดสวิตซ์กุญแจ เฉพาะตอนนั่งแล้ว แล่ะพร้อมจะออกจากตัว เท่านั้น ห้ามเข็นรถขณะเปิดกุญแจ เพราะมือจะไปเผลอ บิดคันเร่ง ทำให้รถพุ่งกระชาก รถคว่ำ คนบาดเจ็บได้ แล่ะก่อนลงจากรถ ต้องปิดกุญแจก่อนทุกครั้ง
2. รถไฟฟ้า ถ้าไม่ใช้เป็นระยะเวลานาน ต้องชาร์จแบตเตอร์รี่ เดือนล่ะครั้งให้เต็ม เป็นการกระตุ้นให้อยู่ในสภาพดี เพราะถ้าทิ้งไว้นาน 3-4 เดือน โดยไม่ชาร์จเลย  ถ้าเป็นแบตเตอร์รี่แบบ กรดตะกั่ว จะเสื่อมแล่ะพัง เพราะจะมีผงแข็งซัลเฟอร์ (Sulfate Solid) ไปเกาะที่แผ่นธาตุ แบตฯ ไม่สามารถทำปฏิกิริยาได้
3. ชาร์จแบตเตอร์รี่ เพียง 6-8 ชั่วโมงเท่านั้น เต็มแล้วถอดสายชาร์จออก ถ้าค้างนานกว่านั้น หรือเสียบค้างคืนหลายวัน จ่ะทำให้แบตร้อน เสื่อมเร็ว อายุการใช้งานสั้นลง
4. ถ้าเป็นแบตแห้ง หรือ กรดตะกั่ว หรือ Lead Acid ควรชาร์จแบตบ่อยๆ ทันที หลังจากใช้งานแล้ว จะช่วยเพิ่มอายุแบตฯ ให้ยาวนานขึ้น อย่าใช้จนเกือบหมดทุกครั้ง เช่น แบตกรดตะกั่ว ใช้หมดเหลือไฟ 70 % แล้วชาร์จทันทีทุกครั้ง จะสามารถชาร์จได้ 1,000 ครั้ง ถ้าใช้ไฟหมด 50% แล้วชาร์จทันทีทุกครั้ง จะสามารถชาร์จได้ 600 ครั้ง แต่ถ้า ใช้หมดเหลือไฟเพียง 20 % แล้วชาร์จทันทีทุกครั้ง จะสามารถชาร์จได้เพียง 400 ครั้ง


ข้อควรระวัง ในการใช้ รถ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สามล้อไฟฟ้า

1. เปิดสวิตซ์กุญแจ เฉพาะตอนนั่งแล้ว แล่ะพร้อมจะออกจากตัว เท่านั้น ห้ามเข็นรถขณะเปิดกุญแจ เพราะมือจะไปเผลอ บิดคันเร่ง ทำให้รถพุ่งกระชาก รถคว่ำ คนบาดเจ็บได้ แล่ะก่อนลงจากรถ ต้องปิดกุญแจก่อนทุกครั้ง
2. รถไฟฟ้า ถ้าไม่ใช้เป็นระยะเวลานาน ต้องชาร์จแบตเตอร์รี่ เดือนล่ะครั้งให้เต็ม เป็นการกระตุ้นให้อยู่ในสภาพดี เพราะถ้าทิ้งไว้นาน 3-4 เดือน โดยไม่ชาร์จเลย  แบตจะเสื่อมแล่ะพัง
3. ชาร์จแบตเตอร์รี่ เพียง 6-8 ชั่วโมงเท่านั้น เต็มแล้วถอดสายชาร์จออก ถ้าค้างนานกว่านั้น หรือเสียบค้างคืนหลายวัน จ่ะทำให้แบตเสื่อมเร็ว อายุการใช้งานสั้นลง
4. อย่าใช้รถให้ระดับแบตเตอร์รี่เกือบหมด เพราะจะทำให้แบตมีความเครียดสูง เสียเร็ว แบตหมดเพียงครึ่งหนึ่ง ก็ควรชาร์จได้แล้ว



ขี่ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า บนถนนหลวงใหญ่ ผิดกฎหมายหรือไม่ จะโดนจับมั้ย

ถ้าเป็นไปตามกฎหมายแบบ ตรงไปตรงมา ขอแยกเป็น ดังนี้:

1. มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ไม่มีทะเบียน โดนจับ ครับ เพราะผิด พรบ. แน่ะนำให้ขี่เฉพาะในซอย หรือถนนเล็กๆ ในหมู่บ้าน ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ ควรซื้อรุ่น ที่มีทะเบียน
2. จักรยานไฟฟ้า ไม่โดนจับ แต่ไม่ควรขับขี่ บนถนนหลวง ที่มีรถเยอะ แล่ะวิ่งเร็ว
3. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า โดนจับครับ ควรจะขับเฉพาะในซอย

ตำรวจจราจรบางคน ใจดี ไม่สนใจ หรือไม่เป็นไร แต่ส่วนใหญ่ เพื่อได้ผลงานแล่ะได้เงิน จึงจับ บ่อย ดังนั้น ยานพาหนะ ข้างต้น ถ้าใช้ขับขี่บนถนนใหญ่ ทางหลวง เจ้าหน้าที่ สามารถเอาผิด แล่ะยึดของกลางได้ เพราะฉะนั้นควรระวังให้มาก เพราะจะเสียใจแล่ะเสียเงินได้


สรุป ถ้าต้องการยานพาหนะ ที่ไปได้ทุกที่ แน่ะนำ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบบจดทะเบียนได้ ตาม พรบ. ขนส่งทางบก ล่าสุดในปัจจุบัน คือ

จะต้อง เกิน 500 วัตต์ วิ่งเร็วเกิน 50 กม./ชม. วิ่งได้เกิน 30 นาที แล่ะ มาจากโรงงานที่มีมาตรฐาน ISO อีก ทั้งมาตรฐานอื่นๆ เช่น
UNR39 - หน้าปัดวัดความเร็ว 
UNR81 - กระจกมองหลัง
UNR28 - แตร

UNR ย่อมาจาก United Nation Regulation = กฎข้อบังคับสหประชาชาติ

แต่ถ้าถนนในพื้นที่แถวๆ นั้น ไม่มีตำรวจ ตั้งด่าน เข้มงวด ไม่ได้เป็นถนนใหญ่สำคัญ ก็สามารถใช้ได้ เพราะไม่มีใครว่าอะไร

 

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดีกว่า น้ำมันอย่างไร

1. ใช้สินค้าที่คนคิด แล่ะ 
#ผลิตในประเทศ

2. ใส่ใจสิ่งแวดล้อม #ไม่ปล่อยคันพิษ#ไม่ทำลายสุขภาพตัวท่านเองแล่ะผู้อื่น คนในเมืองสุขภาพดีขึ้น มีอากาศบริสุทธิ์ ไม่ทำให้อากาศโลกร้อนขึ้น เปลี่ยนแปลง
3. เป็นคนประหยัด เพราะ #มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ประหยัดกว่า น้ำมัน ถึง 10 เท่า ช่วยเหลือครอบครัว ทำให้มั่นคงขึ้น สมมติว่า ถ้าใช้รถน้ำมัน เติมน้ำมันเดือนล่ะ 500 บาท แต่ถ้าใช้รถไฟฟ้า วิ่งในระยะทางเท่ากัน ค่าไฟเพียง 50 บาท ถ้าใช้ยิ่งมากก็ยิ่งประหยัด ส่วนแบตเตอร์รี่ใช้งานได้นานถึง 2-5 ปี แบตเตอร์รี่ตะกั่ว ชาร์จได้ 600 ครั้ง ถ้าใช้ทุกวัน 600 วัน เป็น 1.6 ปี จึงเปลี่ยนใหม่ ลูกล่ะ 1,200 บาท เท่านั้น รถคันหนึ่งมีแบต 4 ลูก ราคา 4,800 บาท

เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย ภายใน 1.5 ปี สมมติว่าใช้เยอะ เดินทาง ไป-กลับ ที่ทำงาน ทุกวัน ห่างจากบ้าน 20 กม. รวม ไป-กลับ 40 กม.

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน            มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
1.1 บาท/กม.                   5 บาท/ชาร์จ วิ่งได้ไกล 40 กม. = 0.125 บาท/กม.
44 บาท/วัน                     5 บาท/วัน
1,320 บาท/เดือน            150 บาท/เดือน
15,840 บาท/ปี               1,800 บาท/ปี
23,760 บาท/ปีครึ่ง         2,700 บาท/ปีครึ่ง 
น้ำมันเครื่อง 500 บาท      เปลี่ยนแบต 4,800 บาท
รวม 24,260 บาท            รวม 7,500 บาท

เพราะฉะนั้น ภายใน 1.5 ปี ประหยัดเงินได้ 24,260-7,500 = 16,760 บาท 

4. ช่วยเหลือประเทศชาติ #ไม่นำเข้าน้ำมัน ไม่ขาดดุลการค้า รักษาเงินในประเทศ (ปัจจุบันประเทศต้องนำเข้าน้ำมันกว่า 1 ล้านๆ บาท ไทยขาดดุลการค้าเพราะปัญหานี้มากที่สุด) ทำให้ประเทศรวยขึ้น มั่นคงขึ้น
5. ไม่ทำเสียงดัง ขณะขับขี่ รบกวนผู้อื่น #ไม่มีมลพิษทางเสียง เพราะ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เงียบมาก
6. #ไม่ขับเร็ว ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ทำให้ตัวท่านเองต้องเสี่ยง อันตราย เพราะ #มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ไม่ได้ออกแบบ ให้มีความเร็วสูง จึงปลอดภัยกว่า
7. #ค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่ต้องเติมน้ำมันเครื่อง เหมือนเครื่องยนต์น้ำมันทั่วไป 
8. #ไม่มีส่วนใดที่ร้อน เครื่องยนต์ที่ร้อน ทุกส่วนจะเย็น ไม่เป็นอันตรายที่สัมผัส เช่น ที่ท่อไอเสียเครื่องยนต์น้ำมันจะร้อน ขามักจะโดน ทำให้ผุพองได้
9. #ประสิทธิภาพสูงกว่า เครื่องยนต์น้ำมัน เพราะพลังงานไฟฟ้า ถูกถ่ายเท ไปที่มอเตอร์อย่างเดียว
10. สามารถใช้ควบคู่กับแหล่งกำเนิดไฟฟ้าทางเลือก อื่นๆ เข่น #พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่า #กังหันลม น้ำ คลื่นทะเล ได้หลากหลายกว่า ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
11. วิ่งลุยเวลาน้ำท่วมได้ มิดทั้งล้อไฟฟ้า เพราะออกแบบมาให้กันน้ำ จมน้ำได้ทั้งคัน ในขณะที่ มอไซค์เครื่องทำไม่ได้ เพราะท่วมเครื่องยนต์จะน๊อค
12. ทนทานกว่า ถ้าเปรียบเทียบสิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ เช่น ไฟท้าย ไฟหน้า เบรค ยาง เหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ รถไฟฟ้า จะมีมอเตอร์ ซึ่ง มีอายุยืนยาวกว่า 10 ปี ก็ไม่พัง ในขณะเครื่องยนต์ต้องบำรุงรักษาบ่อย 4-5 ก็ต้องเริ่มซ่อม

สรุป มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ดีกว่า แบบรถน้ำมัน ทุกอย่าง ยกเว้น ไปได้ไม่ไกล แล่ะจะต้องชาร์จบ่อย เหมาะสำหรับ ไปจ่ายตลาด ไปซื้อ ขับเล่น แถวๆ บ้าน เพราะจะประหยัดกว่ามาก ถ้าใช้ควบคู่กับแผงโซล่า (ปัจจุบันมีราคาถูกแล้ว) ด้วยจะเป็นพลังงานสะอาดมาก ประเทศไม่ต้องนำเข้าน้ำมันเสียดุลการค้า แล่ะไม่ก่อให้เกิดมลพิษ 

DAKO logo

จำหน่าย รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อ DAKO รถมอเตอร์ไซค์ 3 ล้อ สกูตเตอร์ไฟฟ้า จักรยานยนต์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า เอทีวีไฟฟ้า รถกอล์ฟไฟฟ้า และรถไฟฟ้าอื่นๆ

ที่อยู่ บริษัท

เว็บไซต์ DAKO.in.th ดำเนินงาน โดย 
บริษัท ยูคอล เทคโนโลยี จำกัด:

โทร 083-0852160 (จ.-อ.),
0642922096 โรงงาน
 
LINE ID: @dako

ดูสินค้าและทดลองขับได้ที่ โกดัง:


ร้านดาโก้ รถไฟฟ้า
51/22 หมู่ 14 ซอยบางพรม 41 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170


จากถนนราชพฤกษ์ เข้าถนนบางพรม ก่อนถึงซอย บางพรม 41 ซ้ายมือ เป็น โกดัง อยู่หลัง PAKISTAN EXPOCENTER ตรงข้าม ปั๊ม ปตท. 
เปิด จันทร์-เสาร์ 9-17 น. คลิ๊กแผนที่

 tiktoklogo S
กรุณาใส่อีเมล์ของท่าน เพื่อรับข้อมูลข่าวสาร